5 เรื่องที่อาจจะไม่เคยรู้มาก่อน เกี่ยวกับการนอนหลับ

ไหนมีใครเคยประสบปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับบ้างไหมคะ? ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนไม่อิ่ม การนอนละเมอ หรือแม้กระทั่งเรื่องของความฝัน การนอนหลับไม่ใช่แค่เรื่องของการพักผ่อนหรือปิดสวิตช์ร่างกาย แต่เป็นการฟื้นฟูร่างกายให้มีความสมดุลมากขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการนอนหลับถึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

Sleep

การนอนหลับจึงไม่ใช่เพียงกิจวัตรประจำวันที่เราต้องทำ แต่การนอนหลับมีความสำคัญมากกว่านั้นและเป็นสิ่งที่เราทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราอย่างมหาศาล หากสังเกตให้ดีจะพบว่า มนุษย์เราใช้เวลาราว 1 ใน 3 ไปกับการนอนหลับ และคงมีหลายเรื่องเกี่ยวกับการนอนหลับที่หลายคนยังไม่รู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การฝันในระหว่างหลับมีข้อดีอย่างไร ทำไมคนเราถึงนอนละเมอ“ผีอำ” เกิดจากอะไรและเกี่ยวข้องยังไงกับการนอนไม่หลับ ทำไมนอนนานแต่รู้สึกนอนไม่อิ่ม และการนอนหลับไม่เพียงพอทำให้เป็นอัมพาตและโรคสมองเสื่อมได้หรือไม่ วันนี้ Mental Life by Chanisara จะมาตอบคำถาม 5 เรื่องเกี่ยวกับการนอนหลับที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนค่ะ 

Sleep

การฝันในระหว่างหลับมีข้อดีอย่างไร?

ทุกคนรู้ไหมว่าการฝันในระหว่างการนอนหลับมีข้อดีเหมือนกันค่ะ หากเราฝันอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยส่งผลดีให้กับตัวเราหลายประการ เพราะในขณะที่เรากำลังนอนหลับนั้นสมองของเรายังคงทำงานอยู่ ในขณะที่เราฝันสมองจะช่วยจัดการกับอารมณ์และความเครียดของเรา ทำให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้นอีกทั้ง ยังฟื้นฟูจิตใจของเราด้วยค่ะ 

 นอกจากนี้การฝันยังช่วยให้เรามีความจำที่ดีขึ้นด้วยค่ะ เพราะสมองของเราจะช่วยย้ายความจำในระยะสั้น (Short term memmory) ไปสู่ความจำในระยะยาว (Long term memmory) รวมถึงช่วยทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ และยังช่วยให้เราสามารถแก้ปัญหาที่ผ่านเข้ามาได้ดีมากขึ้นนั่นเองค่ะ 

Sleep

ทำไมคนเราถึงนอนละเมอ?

หลายคนสงสัยไหมเขาว่าทำไมคนเราถึงนอนละเมอ การนอนละเมอนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ มักมีปัจจัยมาเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการนอนละเมอ ไม่ว่าจะเป็น การนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียด พันธุกรรม การดื่มแอลกอฮอล์ การใช้สารเสพติดบางชนิด การเปลี่ยนแปลงเวลานอนหลับ ฯลฯ โดยพบว่าเด็กจะมีอาการนอนละเมอมากกว่าผู้ใหญ่  เป็นอาการผิดปกติขณะนอนหลับ ที่เรียกว่า Parasomnia นั่นเองค่ะ

การนอนละเมอ คือการที่เราทำกิจกรรมบางอย่างโดยที่เราไม่รู้ตัว ในตอนนั้นเราจะอยู่ในช่วงกำลังหลับลึก ไม่มีสติ อาการนอนละเมอ สามารถเกิดขึ้นได้ 2 แบบ คือ การละเมอพูดและการละเมอเดิน ซึ่งหากบางคนมีการละเมอรุนแรงอาจถึงขั้นประเมินขับรถออกไปข้างนอก ส่งผลให้เป็นอันตรายต่อชีวิตของเขานั่นเองค่ะ 

Sleep

 “ผีอำ” เกิดจากอะไรและเกี่ยวข้องยังไงกับการนอนไม่หลับ? 

หลายคนอาจคิดว่า อาการ “ผีอำ” เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้วทางการแพทย์ได้อธิบายว่า  “ผีอำ” คือ ภาวะอัมพาตจากการหลับชั่วขณะหนึ่ง หรือ Sleep Paralysis คนมีภาวะนี้จะอยู่ในอาการสะลึมสะลือ รู้สึกตัวแต่ไม่สามารถพูดหรือขยับร่างกายได้ เป็นอาการที่อยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างการหลับและการตื่น ซึ่งทำให้บางคนเกิดอาการหลอนได้ เช่น รู้สึกหายใจไม่ออกหรือคิดว่ามีสิ่งชั่วร้ายกดทับอยู่ ฯลฯ ซึ่งอาการเหล่านี้มาจากความรู้สึกหวาดกลัวของเราที่เกิดขึ้นค่ะ โดยมีการระบุว่า 90% ของคนที่มีอาการหลอนนั้นจะอยู่ในภาวะหวาดกลัวเกินกว่าเหตุ โดยภาวะนี้จะมีอาการตั้งแต่ไม่กี่วินาที ถึงประมาณ 20 นาทีขึ้นอยู่กับบุคคลและจะหายเป็นปกติในที่สุด เรื่องผีอำอาจจะไม่เกิดอันตรายทั้งร่างกาย แต่อาจจะส่งผลเสียทั้งด้านสุขภาพจิตในระยะยาวค่ะ

จากการวิจัยเรื่อง “Lifetime prevalence rates of sleep paralysis: A systematic review” ของคุณ Brian A. Sharpless และ Jacques P. Barber พบว่า คนทั่วไปจะถูก “ผีอำ” เพียง 7.6%  ในขณะที่คนที่มีความผิดปกติด้านการนอนหลับจะถูก “ผีอำ”สูงถึงประมาณ 31.9 % ซึ่งอาจมาจากการนอนหลับไม่เพียงพอ หรือการนอนหลับไม่เป็นเวลา  จึงสะท้อนให้เห็นว่าการนอนหลับมีผลต่อการถูกผีอำนั่นเองค่ะ

Sleep

ทำไมนอนนานแต่รู้สึกนอนไม่อิ่ม

ทุกคนเคยสงสัยไหมคะ บางครั้งเรานอนนานแต่ทำไมตื่นมายังรู้สึกง่วงอยู่เลย รู้สึกนอนไม่อิ่ม ไม่สดชื่น ทั้งที่เรานอนนานเกิน 8 ชั่วโมงด้วยซ้ำ จนหลายคนคิดว่าตัวเองขี้เกียจหรือเปล่า แต่แท้จริงแล้วนั้น การรู้สึกนอนไม่อิ่มเกิดขึ้นจากความผิดปกติทางด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้หายขาดกลับมาเป็นปกติ ซึ่งการนอนไม่อิ่มเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การนอนตื่นบ่อยๆ ตลอดคืน การนอนหลับไม่ลึกหรือนอนไม่เข้าสู่ระยะ REM การหยุดหายใจขณะหลับ การนอนกรน การปรับเวลานอนไม่ถูกหลัก การหลั่งของฮอร์โมนในร่างกาย การหลั่งของสารที่ผิดปกติในสมอง การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาคลายกล้ามเนื้อหรือการได้รับอุบัติเหตุ ฯลฯ เป็นต้นค่ะ 

Sleep

การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้เป็นอัมพาตและโรคสมองเสื่อมได้หรือไม่?

การนอนไม่เพียงพอสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นอัมพาตได้จริง แต่การนอนไม่พอไม่ได้ทำให้เป็นอัมพาตโดยตรง แต่เกิดจากระบบเลือดและการไหลเวียนของเลือดในสมองไม่สมดุล ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้ความดันเลือดสูงขึ้นและยังมีส่วนทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) เพิ่มสูงขึ้นด้วย รวมถึงยังส่งผลทำให้ร่างกายมีการอักเสบเรื้อรัง ที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เกิด “โรคหลอดเลือดในสมอง” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ส่งผลให้เกิด “โรคอัมพาต” ตามมา

“โรคหลอดเลือดในสมอง” จะทำให้หลอดเลือดในสมองเสื่อมเร็ว อาจส่งผลให้ลิ่มเลือดอุดตันหรือหลอดเลือดในสมองแตกได้ ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอ สมองขาดเลือด ทำให้สมองบางส่วนเกิดความเสียหาย ส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมร่างกายบางส่วนได้ทำให้เป็นอัมพาตนั่นเองค่ะ

โดยจากการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงวารสาร Frontiers in Cardiovascular Medicine​ ของคุณ Fang และคณะ ณ โรงพยาบาลถงจี้ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวจง ในประเทศจีน พบว่า การนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดในสมองและอาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคอัมพาตเพิ่มขึ้นถึง 65% เมื่อเทียบกับคนที่นอน 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน

หากนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงและไม่งีบกลางวัน มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดในสมองและอาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคอัมพาตเพิ่มขึ้นถึง 82% ทั้งนี้คนที่เป็นโรคหลอดเลือดในสมอง ไม่ได้จะกลายเป็นอัมพาตทุกคน อยู่ที่ว่าสมองส่วนไหนจะได้รับความเสียหายนั่นเองค่ะ 

รวมถึงการนอนหลับไม่เพียงพอทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้ เนื่องจากสมองไม่สามารถกำจัดของเสียได้เต็มที่ส่งผลให้โปรตีนเป็นพิษ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อมและพาร์กินสันได้นั่นเองค่ะ

 สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจึงสรุปได้ว่าการนอนหลับไม่เพียงพอทำให้สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอัมพาตและโรคสมองเสื่อมได้จริงนะคะดังนั้นทุกคนอย่าลืมนอนหลับให้เพียงพอกันนะคะ

การนอนหลับให้เพียงพอจึงไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่เป็นการฟื้นฟูร่างกายให้สมดุลนะคะ


Source

 https://www.bedee.com/articles/gen-med/sleepwalk https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/21974-sleep-paralysis 

https://www.sleepfoundation.org/parasomnias/sleep-paralysis#

 “Lifetime prevalence rates of sleep paralysis: A systematic review”

: Brian A. Sharpless และ Jacques P. Barber 

https://www.petcharavejhospital.com/en/Article/article_detail/Sleep-too-much-but-Wake-up-Sleepy 

https://www.youtube.com/watch?v=1IyEd0NywTU 

https://www.petcharavejhospital.com/en/Article/article_detail/Sleep-too-much-but-Wake-up-Sleepy 

https://www.bangkokinternationalhospital.com/th/health-articles/disease-treatment/sleep-disorder-treatment-recovery-prevention 

https://www.pealiciouswellness.com/ 

https://www.vitaliaclinicthailand.com/blog/all-facts-about-dreaming

Related Articles

Healing of hearts

การเยียวยาหัวใจของผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว 

ในวันที่ธรรมชาติอาจไม่ใจดี ขอให้เรามีหัวใจที่เข้มแข็ง พร้อมฝ่าฟันทุกปัญหา เราขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน  การเกิดแผ่นดินไหวในวันที่ 28 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาจเป็นแผ่นดินไหวครั้งแรกของใครหลายคน ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนรู้สึกวิตกกังวล นอนไม่หลับ หรืออาจจะเป็นโรคแพนิคได้ แพทย์ชี้ว่าเป็นเรื่องปกติ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ  แผ่นดินไหวครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของใครหลายคน ทั้งผู้ประสบกับเหตุแผ่นดินไหว ผู้ที่มีคนใกล้ชิดประสบเหตุแผ่นดินไหว ผู้ที่ติดตามข่าวสาร หรือเห็นคลิปวีดีโอ

White Lies

White Lies โกหกตัวเองและผู้อื่นวันนี้เพื่อความสบายใจ แต่ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างไม่คาดคิด

อย่าโกหกตัวเองเพื่อรักษาความรู้สึกคนอื่น เพราะความรู้สึกของเราสำคัญไม่แพ้ใคร ทุกคนเคยโกหกตัวเองว่ามีความสุขเพื่อให้คนอื่นสบายใจไหมคะ? หลายครั้งที่เราโกหกตัวเองว่าเรายังไหว ไม่เป็นไรแค่นี้สบายมาก เราพูดกับตัวเอง “ฉันโอเค” “ฉันมีความสุข” พยายามหลอกตัวเองให้คิดแบบนั้น เพื่อที่จะแสดงออกมาให้คนอื่นเห็นว่า “”ฉันไม่เป็นไร” ทั้งที่ภายในใจแตกสลายและรับอะไรแทบจะไม่ไหวอีกแล้ว แต่เราพยายามยิ้ม พยายามหัวเราะ และบอกคนอื่นว่าไม่เป็นไร เพียงเพราะไม่อยากเป็นภาระผู้อื่นและเพื่อให้คนรอบข้างของเรารู้สึกสบายใจ  การกระทำเช่นนี้เรียกว่า “การโกหกสีขาว” หรือ  “White

pet-depression

ทำไม! สัตว์เลี้ยงที่อยู่ในคอนโดที่ไม่ใช่ Pet-Friendly ถึงเกิดอาการซึมเศร้าได้

สัตว์เลี้ยงทุกตัวมีชีวิตจิตใจ จงดูแลและใส่ใจให้ดีที่สุด ให้เขาเป็นหนึ่งสมาชิกในครอบครัวของเรา ในปัจจุบันคนรุ่นใหม่นิยมหันมาอาศัยอยู่คอนโดและนิยมเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้น ทำให้มีคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้มากขึ้นเช่นกัน โดยส่วนมากสัตว์ที่คนนิยมเลี้ยง คงหนีไม่พ้นน้องหมา น้องแมว ซึ่งหากเลี้ยงสัตว์ในคอนโด หรือหอพัก ที่ไม่ใช่ Pet-Friendly หรือไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ เจ้าของก็ต้องคอยหลบซ่อนน้องหมา น้องแมว ทำให้พวกเขาต้องอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด ไม่มีพื้นที่วิ่งเล่น หรือปล่อยพลังมากเพียงพอ ทำให้เขาเกิดความรู้สึกเหงา วิตกกังวลและอาจจะมีอาการซึมเศร้าได้ในที่สุด